เตือนวัยรุ่นใส่ กางเกงเล็คกิ้งสีดำ เสี่ยงต่อการป่วยไข้เลือดออก

แฟชั่นเล็คกิ้งหรือกางเกงใส่กันโป๊ ซึ่งเป็นกระแสแฟชั่นฮิตจากเกาหลี

สธ.เตือนวัยรุ่นใส่ กางเกงเล็คกิ้งสีดำ เสี่ยงต่อการป่วยไข้เลือดออก
(สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์) โดย ชรินทรา คงเอียด

          รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เตือนวัยรุ่นที่ชอบใส่ “กางเกงเล็คกิ้งสีดำ” เสี่ยงต่อการป่วยไข้เลือดออก
          ดร.พรรณ สิริ กุลนาถศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีสถานการณ์โรคไข้เลือดออก ว่า สถานการณ์โรคไข้เลือดออกปีนี้น่าห่วงมาก จำนวนผู้ป่วยสูงกว่าปีที่ผ่านมาประมาณร้อยละ 40 ตั้งแต่เดือนมกราคม-30 กรกฎาคม 2553 ทั่วประเทศมีผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกแล้ว 45,379 ราย เสียชีวิต 43 ราย โดยพบผู้ป่วยทุกกลุ่มอายุ มากที่สุดคือกลุ่มเด็กโตถึงวัยรุ่น อายุ 10-24 ปี พบร้อยละ 52 โดยมีรายงานพบเด็กแรกเกิดอายุต่ำกว่า 28 วัน ป่วยจำนวน 7 ราย ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไปป่วย 322 ราย


          รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวด้วยว่า เรื่อง ที่น่าห่วงคือการแต่งตัวของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นทั้งเขตเมืองและชนบท ที่นิยมแฟชั่นเล็คกิ้งหรือกางเกงใส่กันโป๊ ซึ่งเป็นกระแสแฟชั่นฮิตจากเกาหลี ที่นิยมมากที่สุดคือสีดำ ซึ่งเป็นสีที่ยุงลายชอบ และยุงชนิดนี้จะออกหากินช่วงกลางวันอยู่แล้ว หากยุงที่กัดมีเชื้อไข้เลือดออกก็จะทำให้ติดเชื้อและป่วยได้ จึงขอแนะนำประชาชนให้หลีกเลี่ยงใส่เสื้อผ้าสีโทนทึบ โทนดำ เพื่อหลีกเลี่ยงการยั่วยวนยุงลาย ซึ่งในช่วงเดือนมิถุนายน – กันยายนทุกปี เป็นช่วงระบาดของไข้เลือดออก จะพบผู้ป่วยช่วงนี้มากที่สุด

ขณะนี้นิยมแฟชั่นเล็คกิ้งหรือกางเกงใส่กันโป๊ ซึ่งเป็นกระแสแฟชั่นฮิตจากเกาหลี มีลักษณะเป็นผ้ายืดมีทั้งขายาว ขาสั้น ขาสี่ส่วน มีหลากสีใส่แนบขา แต่ที่นิยมมากที่สุดคือสีดำ ซึ่งเป็นสีที่ยุงลายชอบ และยุงชนิดนี้จะออกหากินช่วงกลางวันอยู่แล้ว ทำให้ผู้ใส่มีความเสี่ยงถูกยุงลายซึ่งมีปากแหลมกัดเจาะผ่านรูผ้ายืดของ กางเกงเข้าไปดูดเลือดได้โดยง่าย หากยุงที่กัดมีเชื้อไข้เลือดออกก็จะทำให้ติดเชื้อและป่วยได้ จึงขอแนะนำประชาชนให้หลีกเลี่ยงใส่เสื้อผ้าสีโทนทึบ โทนดำ เพื่อหลีกเลี่ยงการยั่วยวนยุงลาย ควรเลือกใช้เสื้อผ้าสีอ่อนๆ สวมใส่กางเกงที่ป้องกันไม่ให้ยุงลายกัดได้ เช่นกางเกงยีนส์ หรือกางเกงผ้าหนาๆ ซึ่งในช่วงเดือนมิถุนายน – กันยายนทุกปี เป็นช่วงระบาดของไข้เลือดออก จะพบผู้ป่วยช่วงนี้มากที่สุด

เนื่องจากผลวิเคราะห์จากผู้ป่วยพบ ว่ากว่าร้อยละ 80 ถูกยุงลายในบ้านกัด  ซึ่งแหล่งน้ำในบ้านที่มักมียุงลายวางไข่ ได้แก่ ถังน้ำ โอ่งน้ำ พบได้ร้อยละ 40  รองลงมาคือน้ำหล่อขาตู้กับข้าว แจกัน  วิธีการลดปริมาณยุงลายที่ดีที่สุดคือการทำลายลูกน้ำทุก 5 -7 วันเพื่อไม่ให้มีโอกาสโตเป็นยุงเต็มวัย หากบ้านเรือนทั้ง 22 ล้านครัวเรือนช่วยกัน มั่นใจว่าปริมาณยุงลายตัวเต็มวัยจะลดลง เพราะยุง 1 ตัวจะมีอายุประมาณ 30-45 วัน ส่วนเรื่องการรักษาได้เน้นย้ำให้แพทย์ พยาบาลทุกคนปฏิบัติตามมาตรฐาน หากพบผู้ป่วยทุกอายุที่มีไข้สูง ขอให้นึกถึงโรคไข้เลือดออก และดูแลใกล้ชิด เพื่อลดการเสียชีวิตของผู้ป่วยให้ได้มากที่สุด